กรณีที่มีการเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ถึงการผสมสารฟอร์มาลินลงในน้ำแข็งยูนิค เพื่อไม่ให้น้ำแข็งละลายเร็ว อย. ร่วมกับนักวิชาการทำการทดลอง  ผลปรากฏว่า น้ำแข็งที่ผสมฟอร์มาลิน จะมีลักษณะขุ่นทั้งก้อนและมีกลิ่นฉุน ผู้บริโภคจะสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน

ส่วนการใส่คลอรีน ในน้ำบริโภค ก็เพื่อฆ่าเชื้อโรค ซึ่งสารนี้เป็นสารที่ระเหยง่าย จะถูกกำจัดในกระบวนการปรับคุณภาพน้ำ อยู่แล้ว แนะผู้บริโภคให้ซื้อน้ำแข็งและน้ำดื่มในภาชนะบรรจุปิดสนิท ฉลากมีเครื่องหมาย อย.  พร้อมเลขทะเบียนในกรอบ

นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ถึงการผสมสารฟอร์มาลินลงในน้ำแข็งยูนิคเพื่อใม่ให้น้ำแข็งละลายเร็ว และการใส่คลอรีนในน้ำบริโภคทุกวัน ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งนั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีการติดตามเฝ้าระวังผลิตภัณฑ์น้ำแข็งและน้ำดื่มในภาชนะบรรจุปิดสนิทอย่างเข้มงวด ขอให้ผู้บริโภคมั่นใจ ในเรื่องความปลอดภัย สำหรับกรณีข่าวผสมสารฟอร์มาลินในน้ำแข็ง อย. ได้ประสานความร่วมมือกับอาจารย์จากสาขาวิชาการจัดการความปลอดภัยอาหาร คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ทำการทดลองถึงลักษณะและการละลายของน้ำแข็งที่ผสมฟอร์มาลินเปรียบเทียบกับน้ำแข็งธรรมดา ผลการทดลองปรากฏว่า น้ำแข็งที่ผสมฟอร์มาลินมีลักษณะขุ่นทั้งก้อนและ   มีกลิ่นฉุนของฟอร์มาลิน ในขณะที่น้ำแข็งธรรมดาจะมีส่วนที่ขุ่นอยู่ตรงกลางก้อน ส่วนเรื่องของการละลาย ช่วงแรกน้ำแข็งที่ผสมฟอร์มาลินจะละลายได้ช้ากว่า แต่เมื่อสิ้นสุดการทดลองพบว่า น้ำแข็งธรรมดาละลายได้ช้ากว่า  

ดังนั้น จึงสรุปได้ว่า ฟอร์มาลินไม่มีส่วนช่วยในการทำให้น้ำแข็งตัวกลายเป็นน้ำแข็ง และหากในกระบวนการทำน้ำแข็งมีการใส่สารฟอร์มาลิน ผู้บริโภคสามารถสังเกตได้อย่างชัดเจนจากลักษณะของก้อนน้ำแข็งและกลิ่นฉุน ทั้งนี้ น้ำแข็งที่จำหน่ายทั่วไปนั้นจะต้องได้คุณภาพและมาตรฐานตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยเรื่องน้ำแข็ง โดยไม่อนุญาตให้มีการใส่สารฟอร์มาลิน ซึ่งเป็นสารที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภคโดยเด็ดขาด ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 151) พ.ศ. 2536 เรื่อง กำหนดวัตถุที่ห้ามใช้ในอาหาร หากตรวจพบว่ามีการลักลอบใส่ฟอร์มาลิน ถือเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 6(5) พบวัตถุที่ห้ามใช้ในอาหาร ต้องระวางโทษตามมาตรา 47 ปรับไม่เกิน 20,000 บาท ในกรณีของกลิ่นฉุน ที่ติดมากับน้ำแข็งนั้น อาจจะเกิดจากการรั่วของแอมโมเนีย ซึ่งใช้เป็นสารทำความเย็นในกระบวนการผลิตน้ำแข็ง หากผู้บริโภคพบผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นฉุนดังกล่าว สามารถแจ้งมายัง อย. เพื่อทำการตรวจสอบต่อไปได้

ส่วนการใส่คลอรีนในน้ำ เนื่องจากกระบวนการผลิตน้ำบริโภคในปัจจุบันส่วนใหญ่มาจากน้ำผิวดิน ซึ่งอาจมีการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรค จึงมีความจำเป็นต้องใส่สารฆ่าเชื้อเพื่อฆ่าเชื้อโรคที่มาจากน้ำดิบก่อนเข้าสู่กระบวนการ คลอรีนเป็นสารฆ่าเชื้อที่องค์การอนามัยโลกแนะนำ เนื่องจากเป็นสารที่สามารถควบคุมและเฝ้าระวังการใช้ได้ง่าย และระเหยง่ายกว่าสารฆ่าเชื้อชนิดอื่น ซึ่งปริมาณคลอรีนคงเหลือในน้ำดิบที่ผ่านกระบวนการแล้ว ต้องมีปริมาณไม่น้อยกว่า 0.2 แต่ไม่เกิน 0.5 มิลลิกรัมต่อลิตร หลังจากนั้นน้ำดิบ   จะผ่านกระบวนการปรับคุณภาพน้ำ ซึ่งคลอรีนจะถูกกำจัดในกระบวนการดังกล่าว และเมื่อนำมาผลิต    เป็นน้ำบริโภค อย. ยังได้กำหนดให้น้ำบริโภคนั้น ต้องได้คุณภาพและมาตรฐานตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยเรื่อง น้ำบริโภคในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิทอีกด้วย

รองเลขาธิการฯ อย. กล่าวในตอนท้ายว่า ขอผู้บริโภคอย่าเพิ่งหลงเชื่อข่าวที่ส่งต่อทางสื่อออนไลน์ เพราะอาจไม่ใช่เรื่องจริง การเลือกซื้อน้ำแข็ง หากเป็นน้ำแข็งหลอดที่บรรจุถุง ควรสังเกตรายละเอียดบนฉลากให้ครบถ้วน เช่น เครื่องหมาย อย. พร้อมเลขสารบบอาหาร 13 หลัก และข้อความ “น้ำแข็งใช้รับประทานได้” ด้วยอักษรสีน้ำเงิน ส่วนน้ำแข็งหลอดตักแบ่งขายตามร้านค้า ร้านอาหารทั่วไป  ผู้บริโภคควรสังเกตสถานที่เก็บและภาชนะที่บรรจุน้ำแข็งซึ่งต้องถูกสุขลักษณะ ไม่มีการใส่น้ำแข็งปนกับอาหารประเภทอื่น โดยก้อนน้ำแข็งเมื่อสังเกตด้วยตาเปล่าต้องมีความใส สะอาด ปราศจากเศษฝุ่นละอองปนเปื้อน ส่วนน้ำบริโภคในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท ควรเลือกซื้อโดยสังเกตจากภาชนะบรรจุ ต้องสะอาด ไม่มีตะไคร่น้ำ ปิดสนิท ไม่รั่วซึม ไม่มีร่องรอยการเปิดใช้ มีเครื่องหมาย อย. แสดงบนฉลาก ลักษณะของน้ำที่บรรจุอยู่ต้องใสสะอาด ไม่มีตะกอน ไม่มีสี กลิ่น รสที่ผิดปกติ

ทั้งนี้ หากผู้บริโภคพบเห็นผลิตภัณฑ์อาหารที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือไม่ได้รับความปลอดภัยจากการบริโภค สามารถแจ้งร้องเรียนได้ที่ สายด่วน อย. 1556 หรือที่ E-mail: 1556@fda.moph.go.th  หรือตู้ปณ. 1556 ปณฝ. กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี 11004 หรือร้องเรียนผ่าน Oryor Smart Application หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อ อย. จะดำเนินการตรวจสอบ และดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้กระทำผิดต่อไป

******************************************************************

กองพัฒนาศักยภาพผู้บริโภค  10 เมษายน 2558  ข่าวแจก 52 / ปีงบประมาณ พ.ศ. 2558